1.สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ
สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "สวนรถไฟ" เป็นหนึ่งในที่เที่ยวกรุงเทพยอดนิมยมของสายสุขภาพ เพราะเป็นสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน และยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหรือสัมผัสธรรมชาติ
สิ่งที่น่าสนใจในสวนวชิรเบญจทัศ
สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ เป็นสวนสาธารณะที่มีความหลากหลายทั้งในแง่ของกิจกรรมและความสวยงามของธรรมชาติ ภายในสวนมีพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายมากมาย เช่น สนามวิ่ง จักรยาน และสนามกีฬาให้เลือกใช้ รวมทั้งยังมีลู่วิ่งแบบกรวดที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักวิ่งที่ต้องการหาสถานที่วิ่งในบรรยากาศที่สงบ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ "ทะเลสาบ" ภายในสวนที่มีการปลูกพืชน้ำและมีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถนั่งพักผ่อนหรือถ่ายรูปได้ตามริมทะเลสาบ เพื่อเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่ร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีการจัดสวนไม้ดอกไม้ประดับที่มีสีสันสดใสให้เดินชม
สวนรถไฟยังเหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการพาบุตรหลานมาทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปั่นจักรยานหรือเล่นที่สนามเด็กเล่นภายในสวน และในบางครั้งยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษเช่น งานแสดงดนตรีหรืองานเทศกาลที่เปิดโอกาสให้ผู้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วม
การเดินทางมาที่สวนวชิรเบญจทัศ
การเดินทางมาที่สวนวชิรเบญจทัศสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะ สำหรับผู้ที่ใช้รถไฟฟ้า BTS สามารถลงที่สถานีหมอชิตหรือ MRT จตุจักร และเดินต่อไปยังสวนได้อย่างสะดวก โดยมีระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ จึงถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติและความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าไปอย่างลงตัว เหมาะแก่การพักผ่อนในช่วงวันหยุด หรือการออกกำลังกายท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบของสวนกลางเมืองกรุงเทพมหานคร
ที่อยู่ : สวนวชิรเบญจทัศ ตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 3 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิตและสถานี MRT จตุจักร ทำให้การเดินทางสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ABKCpeMwqyRQbkHR6
เปิดให้เข้าชม : สวนวชิรเบญจทัศเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 21.00 น. ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งการมาวิ่งออกกำลังกายในช่วงเช้า การเดินเล่นในยามเย็น หรือแม้แต่การนั่งพักผ่อนในช่วงกลางวัน การเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวันทำให้สวนนี้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ
เว็บไซต์ : สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ และการดูแลรักษาสวนสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของสวนวชิรเบญจทัศได้ที่ www.bangkok.go.th ซึ่งจะมีการอัปเดตข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงข้อกำหนดการใช้งานพื้นที่ในสวนให้ทราบอย่างชัดเจน
เบอร์โทรศัพท์ : 02-5379221
2. สวนหลวง ร.9
สวนหลวง ร.9 เป็นที่เที่ยวกรุงเทพ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของทั้งชาวกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยบรรยากาศร่มรื่นและการจัดสวนอย่างสวยงาม สวนแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย, เดินเล่น หรือแม้แต่การมานั่งพักผ่อนในวันหยุด
สิ่งที่น่าสนใจในสวนหลวง ร.9
สวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 500 ไร่ ภายในสวนมีการจัดทำพื้นที่ต่าง ๆ สำหรับกิจกรรมหลายประเภท เช่น สนามกีฬา, สนามเด็กเล่น, และลู่วิ่งรอบสวน นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สามารถให้ผู้มาเยือนได้พักผ่อนหย่อนใจรอบ ๆ ทะเลสาบ พร้อมกับการชมวิวของดอกไม้และพืชพรรณที่มีการปลูกไว้อย่างสวยงาม
สวนหลวง ร.9 ยังมีสวนเฉลิมพระเกียรติในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ การจัดแสดงดอกไม้สวยงามตามฤดูกาล เช่น ดอกบัวดินและดอกไม้เมืองหนาว รวมทั้งการตกแต่งสวนในสไตล์ต่าง ๆ ที่สร้างความหลากหลายให้กับพื้นที่
อีกหนึ่งจุดเด่นของสวนหลวง ร.9 คือการมีพื้นที่สำหรับการฝึกโยคะและการออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่รักสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเสริมต่าง ๆ เช่น งานเทศกาลดนตรีหรือกิจกรรมทางศิลปะที่มักจะจัดขึ้นภายในสวน
การเดินทางมาที่สวนหลวง ร.9
การเดินทางมาที่สวนหลวง ร.9 สามารถทำได้โดยใช้รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีซีคอนสแควร์แล้วต่อรถแท็กซี่หรือรถประจำทางมายังสวนหลวง ร.9 หรือหากขับรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์มุ่งตรงไปยังสวนได้อย่างสะดวก
สวนหลวง ร.9 จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติและความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งในกรุงเทพฯ
ที่อยู่ : สวนหลวง ร.9 ตั้งอยู่ที่ถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fSX1fbvAieAamALS8
เปิดให้เข้าชม : สวนหลวง ร.9 เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 19.00 น. ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาทำกิจกรรมออกกำลังกายหรือสัมผัสธรรมชาติในช่วงเช้าและเย็น การเปิดให้เข้าชมในช่วงเวลาเหล่านี้ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินเล่นหรือวิ่งรอบสวนในอากาศที่สดชื่น
เว็บไซต์ : http://suanluangrama9.or.th/
เบอร์โทรศัพท์ : 02-1062674
3.สวนเบญจกิติ
สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในที่เที่ยวกรุงเทพแนวสวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่น และมีความเป็นธรรมชาติที่สามารถใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ด้วยทำเลที่ตั้งที่สะดวกสบาย สวนเบญจกิติจึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการพักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง
สิ่งที่น่าสนใจในสวนเบญจกิติ
สวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 300 ไร่ ซึ่งเดิมทีถูกใช้เป็นพื้นที่ของโรงงานยาสูบ ก่อนที่จะมีการพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะ โดยการจัดทำสวนนี้เน้นการรักษาธรรมชาติและสร้างความร่มรื่น ด้วยต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียวอย่างมากมาย นอกจากนี้ยังมีการจัดสวนแบบสมัยใหม่ที่เน้นการประหยัดน้ำและใช้พลังงานทดแทน
หนึ่งในจุดเด่นของสวนเบญจกิติคือ "ทะเลสาบกลางสวน" ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นรอบๆ ทะเลสาบเพื่อชมวิวธรรมชาติหรือจะนั่งพักผ่อนบนม้านั่งที่ตั้งอยู่รอบๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีทางเดินเท้าและเส้นทางจักรยานที่เหมาะสำหรับการวิ่งออกกำลังกายหรือปั่นจักรยานไปตามเส้นทางรอบสวน
สวนเบญจกิติยังเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น โยคะ, การออกกำลังกาย หรือการนั่งพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การแสดงดนตรีกลางแจ้งหรืองานเทศกาลต่างๆ ที่มักจะจัดขึ้นในสวน
การเดินทางมาที่สวนเบญจกิติ
การเดินทางมาที่สวนเบญจกิติสะดวกสบายทั้งด้วยรถสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว หากใช้รถไฟฟ้า BTS สามารถลงที่สถานีอโศก หรือ MRT สุขุมวิท และเดินต่อไปยังสวนได้ไม่ไกล หรือหากขับรถยนต์สามารถใช้เส้นทางถนนรัชดาภิเษกและมีที่จอดรถภายในสวน
สวนเบญจกิติจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการออกกำลังกายและสัมผัสธรรมชาติท่ามกลางเมืองหลวงที่วุ่นวาย เป็นสถานที่ที่ทำให้คุณได้สูดอากาศบริสุทธิ์และเติมพลังให้กับตัวเองในทุกๆ วัน.
ที่อยู่ : สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ที่ ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/T3LCpk6GKLXSagkcA
เปิดให้เข้าชม : สวนเบญจกิติเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 21.00 น. การเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเลือกมาได้ในเวลาที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าที่สดชื่นหรือเย็นที่อากาศเย็นสบาย
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100064388066662
เบอร์โทรศัพท์ : สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมภายในสวนเบญจกิติ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานสวนเบญจกิติ : 0-2252-7111
4.เยาวราช
เยาวราช หรือที่เรียกกันในชื่อ "ไชน่าทาวน์กรุงเทพฯ" เป็นหนึ่งในย่านที่มีเสน่ห์และมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร ทั้งในเรื่องของวัฒนธรรม ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย หากคุณอยากสัมผัสบรรยากาศแบบจีนดั้งเดิมพร้อมกับร้านอาหารและของกินที่อร่อยสุด ๆ เยาวราชคือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด!
สำหรับคนที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเดินเล่นในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ หรือของฝากต่าง ๆ ก็มีให้เลือกมากมาย
เยาวราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและความหลากหลายทั้งด้านอาหารและการช็อปปิ้ง เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่มาเยือนกรุงเทพฯ อย่าลืมแวะไปสัมผัสบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจในเยาวราช!
สิ่งที่น่าสนใจในเยาวราช
เยาวราชเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น วัดมังกรกมลาวาส วัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงาม และเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ หรือจะเดินไปที่ถนนเยาวราชที่มีร้านอาหารจีนแท้ ๆ รวมถึงร้านขนมหวานโบราณ ที่คนชอบมาลิ้มลองรสชาติของขนมเปี๊ยะ ขนมโก๋ และน้ำชาแบบจีนดั้งเดิม
นอกจากนั้นยังมีตลาดขายทองที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ต้องการซื้อทองคำไปเป็นของฝากหรือของที่ระลึก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่เยาวราชจะเต็มไปด้วยสีสันและการตกแต่งที่สวยงามเพื่อเฉลิมฉลอง
ที่อยู่ : เยาวราชตั้งอยู่ในเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นย่านที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งในด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเย็นและกลางคืนที่สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนและแสงไฟจากป้ายร้านที่มีสีสันสดใส
เปิดให้เข้าชม : เยาวราชเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือช่วงเย็นจนถึงค่ำ เพราะจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทั้งในด้านการค้าขายและการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ร้านอาหารและร้านขายของต่าง ๆ เปิดให้บริการจนดึก
เว็บไซต์ : สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในเยาวราช รวมถึงร้านอาหารแนะนำหรือกิจกรรมต่าง ๆ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ที่ https://www.tourismthailand.org เพื่อค้นหาข้อมูลที่อัปเดตเกี่ยวกับเยาวราชและการเดินทาง
เบอร์โทรศัพท์ : สำหรับการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมหรือการเดินทางในย่านเยาวราช สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร 1672 หรือโทรติดต่อศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ 02-168-7515
5.ท่าวังหลัง
ท่าวังหลัง แหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิกแห่งกรุงเทพฯ
ท่าวังหลัง คือหนึ่งในย่านที่มีเสน่ห์และความสำคัญในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในแง่ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสีสันและความอุดมสมบูรณ์ทั้งในเรื่องของการค้าขาย และการท่องเที่ยว ซึ่งใครที่มาเยือนกรุงเทพฯ ก็ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสบรรยากาศแบบดั้งเดิมที่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและความเป็นสากล
นอกจากความงามทางธรรมชาติแล้ว ท่าวังหลังยังมีร้านอาหารอร่อยหลายร้าน เช่น ร้านข้าวต้มปลาท่าวังหลังที่เป็นที่นิยม หรือร้านขนมหวานดั้งเดิมที่เสิร์ฟขนมไทยหลากหลายชนิดที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ
ท่าวังหลังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น การล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือการลิ้มลองรสชาติอาหารอร่อย ๆ ในตลาดท่าวังหลัง ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งกรุงเทพมหานครแบบแท้จริง
สิ่งที่น่าสนใจในท่าวังหลัง
ท่าวังหลังเป็นย่านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น หรือการเดินเล่นในตลาดสดท่าวังหลังที่ขายอาหารทะเลสดใหม่ ร้านขายขนมไทยโบราณ หรือแม้กระทั่งร้านขายของฝากที่มีทั้งของท้องถิ่นและของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในท่าวังหลังคือการเดินทางทางเรือ ซึ่งสามารถนั่งเรือข้ามฟากไปยังฝั่งพระนครหรือไปยังวัดอรุณราชวรารามเพื่อชมความงามของวัดที่มีอายุหลายร้อยปี อีกทั้งยังมีวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก
ที่อยู่ : ท่าวังหลังตั้งอยู่ในเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวังและวัดอรุณราชวราราม เป็นอีกหนึ่งทำเลที่สะดวกสบายและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
เปิดให้เข้าชม : ท่าวังหลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นที่เหมาะแก่การเดินเล่นหรือหาของอร่อยทานในตลาดท่าวังหลัง ซึ่งมีร้านอาหารและขนมหวานหลายร้านให้เลือกชิม รวมถึงการเดินเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่บรรยากาศเงียบสงบและเย็นสบาย
เว็บไซต์ : ท่าวังหลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในท่าวังหลัง หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ สามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ที่ https://www.tourismthailand.org เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท่าวังหลังหรือการเดินทางในพื้นที่ใกล้เคียง
เบอร์โทรศัพท์ : หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ หรือสอบถามเส้นทางการเดินทางมายังท่าวังหลัง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร 1672 หรือเบอร์โทรของศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยวที่ 02-168-7515
6. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ที่เที่ยวกรุงเทพ
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ (Asiatique The Riverfront) เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดชิคที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความคลาสสิก พร้อมกับร้านค้า ร้านอาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เอเชียทีคจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเยือนกรุงเทพฯ
สิ่งที่น่าสนใจในเอเชียทีค
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีร้านค้าแบรนด์ดังทั้งจากไทยและต่างประเทศ แต่ยังเป็นที่รวมร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังที่ให้บริการอาหารหลากหลายประเภท ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง หรือแม้กระทั่งอาหารทะเลสดใหม่ นอกจากนี้ยังมีร้านขนมหวานและเครื่องดื่มที่สามารถนั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในบรรยากาศสุดโรแมนติก
อีกหนึ่งไฮไลต์ของเอเชียทีคคือ ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองกรุงเทพได้อย่างชัดเจนในมุมสูง เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ยังมี ตลาดกลางคืน ที่จัดเต็มด้วยสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งของที่ระลึก งานศิลปะ และสินค้าทำมือจากศิลปินท้องถิ่น รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทันสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งในบรรยากาศที่สดใสและคึกคัก
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบครันทั้งในด้านการช้อปปิ้ง การรับประทานอาหาร และกิจกรรมสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศสุดพิเศษริมแม่น้ำเจ้าพระยา หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้ง อาหารอร่อย และกิจกรรมที่หลากหลาย เอเชียทีคจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด!
ที่อยู่ : เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ตั้งอยู่ที่ 2194 ถนนเจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านบางคอแหลม เพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรจากย่านสาทรและสีลม ทำให้การเดินทางไปยังเอเชียทีคสะดวกและง่ายดายจากหลายจุดในกรุงเทพฯ
การเดินทางไปเอเชียทีคสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว แท็กซี่ หรือแม้แต่บริการเรือข้ามฟากที่ให้บริการจากท่าเรือสาธุประดิษฐ์ หรือหากต้องการความสะดวกสบายสูงสุดสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสิน (Saphan Taksin) แล้วต่อเรือฟรีที่ท่าเรือสะพานตากสินไปยังเอเชียทีค
เปิดให้เข้าชม : เอเชียทีคเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 17:00 น. - 24:00 น. โดยที่สามารถเข้าไปเดินชมร้านค้าต่าง ๆ ร้านอาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงค่ำคืน แต่อย่างไรก็ตามร้านค้าบางแห่งอาจมีเวลาทำการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน
เว็บไซต์ : สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เช่น กิจกรรมพิเศษ งานอีเวนต์ต่าง ๆ หรือรายละเอียดการเดินทางสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของเอเชียทีคได้ที่ https://www.asiatiquethailand.com นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้จากช่องทางโซเชียลมีเดียของเอเชียทีคที่อัปเดตข้อมูลล่าสุด
เบอร์โทรศัพท์ : สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเชียทีค หรือบริการต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข +66 2 108 4488 ซึ่งทีมงานของเอเชียทีคยินดีให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในพื้นที่
7. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดพระแก้ว เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง และเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดของไทย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเลือกที่จะมาชมความงดงามของวัดพระศรีรัตนศาสดารามทุกปี เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับความศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมที่งดงามและสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบของวัดนี้ได้อีกด้วย
ความสำคัญและประวัติศาสตร์ของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2325 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1) ซึ่งเป็นสมัยเริ่มต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นภายในพระบรมมหาราชวังและเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญและถือเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ไทย
พระแก้วมรกตมีความสำคัญทั้งทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของพระราชวงศ์ นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและประณีต ตั้งแต่โบสถ์จนถึงหอพระแก้ว ที่ล้วนแล้วแต่มีความละเอียดในการสร้างสรรค์และสวยงาม
ความงดงามของสถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมภายในวัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการออกแบบอย่างงดงามตามแบบไทยประยุกต์ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไทยโบราณกับสถาปัตยกรรมจากต่างประเทศ จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวมักให้ความสนใจคือ พระอุโบสถ ที่มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีทองอร่ามและมีการแกะสลักที่สวยงาม การเข้าชมภายในวัดทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์และความสงบร่มเย็น
การเดินทาง
การเดินทางมายังวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้นสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงที่สถานีสะพานตากสิน หรือใช้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือศิริราชไปยังท่าเรือพระราชวัง ซึ่งจะมีการเดินต่อไปยังบริเวณวัดได้อย่างสะดวก
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกรุงเทพมหานคร ทั้งในด้านความสวยงามของสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์อันมีค่าในทุกมุมของวัดนี้ได้ตลอดทั้งปี
ที่อยู่
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งอยู่ที่ ถนนหน้าพระลาน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง และอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยา
พิกัด
https://maps.app.goo.gl/npSLgMnfR16izGM27
เปิดให้เข้าชม
วัดพระศรีรัตนศาสดารามเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30 น. - 15:30 น. นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมภายในวัดได้ตามเวลาเปิดทำการ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและให้คำแนะนำต่าง ๆ อย่างละเอียด
เว็บไซต์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของวัดที่:
www.watphrasrirattanasatsadaram.org
เบอร์โทรศัพท์
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามเรื่องการเข้าชม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์: +66 2 623 5500
8.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในวัดที่มีความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้มักถูกกล่าวถึงในฐานะที่เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของกรุงเทพฯ และถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองหลวง
ความสำคัญและประวัติศาสตร์ของวัดอรุณ
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร มีความสำคัญทั้งในด้านศาสนาและประวัติศาสตร์ของประเทศไทย วัดนี้มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเริ่มก่อสร้างในช่วงกรุงศรีอยุธยา แต่ได้รับการปรับปรุงและขยายในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งในเวลานั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ขึ้นใหม่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งรุ่งอรุณหรือแสงสว่างของกรุงรัตนโกสินทร์
พระปรางค์อรุณ
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้วัดอรุณเป็นที่รู้จักคือ พระปรางค์อรุณ ซึ่งมีลักษณะเป็นยอดสูงที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่เหนือแม่น้ำเจ้าพระยา พระปรางค์นี้สูงถึง 79 เมตร และได้รับการตกแต่งด้วยกระเบื้องสีขาวและสีฟ้า ที่สะท้อนแสงแดดทำให้วัดอรุณดูงดงามและสง่างามเป็นอย่างมากในยามเช้า การขึ้นไปยังยอดพระปรางค์จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและกรุงเทพฯ จากมุมสูง ซึ่งถือเป็นภาพที่ประทับใจนักท่องเที่ยวหลายคน
สถาปัตยกรรมและความงดงาม
นอกจากพระปรางค์อรุณแล้ว วัดอรุณยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอีกมากมาย เช่น พระอุโบสถ ที่ตกแต่งด้วยศิลปะไทยดั้งเดิม รวมถึง พระพุทธรูป และ วิหารต่าง ๆ ที่มีลวดลายประณีต อีกทั้งภายในวัดยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของพระพุทธศาสนาและพุทธประวัติที่เป็นที่น่าสนใจ
การเดินทาง
การเดินทางมายังวัดอรุณนั้นสะดวกสบายโดยการใช้บริการเรือข้ามฟากจากฝั่งพระนครมาที่ท่าเรือวัดอรุณ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือโดยสารจากท่าเรือท่าช้างหรือท่าเรือสะพานพระราม 8 ไปยังท่าเรือวัดอรุณได้โดยสะดวก หรือหากใช้รถยนต์ก็สามารถขับมาตามถนนอรุณอัมรินทร์
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ยังมีความสำคัญทางด้านศาสนาและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน วัดนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางมายังกรุงเทพฯ เพราะนอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมและความสงบที่ท่านจะได้สัมผัสแล้ว การได้เห็นพระปรางค์อรุณที่สูงตระหง่านก็ถือเป็นภาพที่น่าประทับใจและเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ
ที่อยู่
วัดอรุณตั้งอยู่ที่ ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางกอกใหญ่ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ใกล้กับท่าเรือวัดอรุณ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยเรือหรือนั่งรถแท็กซี่มาได้ง่าย
พิกัด
https://maps.app.goo.gl/E7gJAsq2RJLqoMdJ8
เปิดให้เข้าชม
วัดอรุณเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. - 17:30 น. โดยผู้มาเยือนสามารถเข้าเยี่ยมชมวัดได้ภายในเวลาทำการ เจ้าหน้าที่ของวัดจะคอยดูแลและให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวัดอรุณตลอดเวลาการเยี่ยมชม
เว็บไซต์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่:
www.watarun.org
เบอร์โทรศัพท์
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์: +66 2 891 2188
9. ถนนข้าวสาร
ถนนข้าวสาร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและคึกคักที่สุดในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักจะมาเยือนถนนสายนี้เพื่อสัมผัสบรรยากาศแห่งความหลากหลายและชีวิตกลางคืนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ถนนข้าวสารเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นหนึ่งในจุดที่ควรมาเยือนหากคุณเดินทางมาที่กรุงเทพฯ
ความหลากหลายของถนนข้าวสาร
ถนนข้าวสารเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ หรือแม้แต่ของที่ระลึกต่าง ๆ ที่จะทำให้ผู้มาเยือนสามารถเลือกซื้อของที่ถูกใจได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ รวมไปถึงบาร์และคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยความคึกคักในช่วงค่ำคืน ที่ทำให้ถนนข้าวสารกลายเป็นแหล่งบันเทิงที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ถนนข้าวสารได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือนักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามถนนเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่แตกต่างจากการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงเทพฯ ถนนข้าวสารยังเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คที่มักจะเลือกพักในโฮสเทลราคาถูกซึ่งมีอยู่มากมายตามถนนนี้
ชีวิตกลางคืนที่ถนนข้าวสาร
ถนนข้าวสารยังมีชื่อเสียงในเรื่องของชีวิตกลางคืน โดยในช่วงเย็นและค่ำจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มานั่งดื่มเครื่องดื่มที่บาร์ และเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงหรือการพูดคุยกับเพื่อนใหม่ที่พบเจอขณะเดินทาง บรรยากาศของถนนข้าวสารเต็มไปด้วยแสงสีเสียงที่ทำให้ที่นี่ดูเหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เคยหลับใหล
การเดินทางมายังถนนข้าวสาร
การเดินทางมายังถนนข้าวสารนั้นสะดวกสบายมาก ๆ หากคุณอยู่ในพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ เช่น พระบรมมหาราชวังหรือวัดพระแก้ว คุณสามารถเดินหรือนั่งรถสาธารณะ เช่น แท็กซี่หรือรถประจำทางมาที่ถนนข้าวสารได้อย่างง่ายดาย ถ้าคุณใช้รถไฟฟ้า BTS สามารถลงที่สถานีสะพานตากสินแล้วต่อรถแท็กซี่หรือนั่งเรือข้ามไปยังท่าเรือใกล้ ๆ เพื่อมาถึงถนนข้าวสารได้อย่างสะดวก
ถนนข้าวสารถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ทั้งในด้านการช็อปปิ้ง อาหาร และความบันเทิงในยามค่ำคืน สำหรับใครที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายและได้พบปะกับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ถนนข้าวสารถือเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกรุงเทพฯ
ที่อยู่
ถนนข้าวสารตั้งอยู่ในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นถนนที่อยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังถนนข้าวสารได้ง่ายโดยการใช้รถสาธารณะ เช่น แท็กซี่ หรือแม้กระทั่งจักรยานและเดิน
พิกัด
https://maps.app.goo.gl/rYoLPvxkMuGSa1AQ6
เปิดให้เข้าชม
ถนนข้าวสารเป็นพื้นที่สาธารณะและเปิดให้ทุกคนเข้าชมตลอดเวลา เนื่องจากเป็นถนนที่มีชีวิตชีวาตลอดทั้งวันและคืน โดยเฉพาะในช่วงค่ำที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ถนนนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกที่เปิดตลอดเวลา
เว็บไซต์
ถนนข้าวสารไม่มีเว็บไซต์ทางการ แต่หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น www.tourismthailand.org ที่ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ
เบอร์โทรศัพท์
เนื่องจากถนนข้าวสารเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการจัดการโดยองค์กรเดียว เบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อทั่วไปไม่สามารถระบุได้ แต่หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือสอบถามการบริการสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทรศัพท์: +66 2 694 1222
10. สนามมวยราชดำเนิน
สนามมวยราชดำเนิน เป็นสถานที่ที่สำคัญในวงการมวยไทยและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวหลายคนให้ความสนใจเมื่อมาเยือนกรุงเทพมหานคร สนามมวยราชดำเนินไม่ได้เป็นแค่สนามมวยที่มีชื่อเสียงระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่รวบรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมวยไทยที่มีการฝึกฝนและแข่งขันมาอย่างยาวนาน การไปเยือนสนามมวยราชดำเนินจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความตื่นเต้นและสนุกสนานจากการชมการแข่งขันมวยไทยที่เต็มไปด้วยความมันส์และความดุเดือด
ประวัติความเป็นมาของสนามมวยราชดำเนิน
สนามมวยราชดำเนินก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2482 โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลเป็นผู้ริเริ่ม ซึ่งในตอนนั้นสนามมวยราชดำเนินได้รับการออกแบบให้เป็นสถานที่จัดการชกมวยไทยที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง สำหรับการจัดการแข่งขันที่มีความดุเดือด สนามมวยแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของวงการมวยไทยและยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ความสำคัญของสนามมวยราชดำเนิน
สนามมวยราชดำเนินไม่เพียงแต่เป็นสนามสำหรับการแข่งขันมวยไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ ด้วยการชมการชกมวยที่มีทั้งนักมวยที่มีชื่อเสียงและนักมวยหน้าใหม่ที่เตรียมตัวต่อสู้เพื่อชื่อเสียงและความสำเร็จ มวยไทยถือเป็นกีฬาที่มีการฝึกฝนและสืบทอดมาหลายรุ่น ซึ่งในแต่ละแมตช์จะมีความตื่นเต้นและความมันส์ที่ไม่เหมือนกัน
สนามมวยราชดำเนินเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์และความตื่นเต้นจากผู้ชมที่เข้ามาชมการแข่งขัน นอกจากการชมการชกมวยแล้ว ยังมีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับมวยไทย รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินได้ระหว่างชมการแข่งขัน
การเดินทางมายังสนามมวยราชดำเนิน
การเดินทางมายังสนามมวยราชดำเนินนั้นสะดวกสบาย เนื่องจากสนามมวยตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกที่ในกรุงเทพฯ หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถขับมาที่ถนนราชดำเนินกลาง หรือหากใช้บริการขนส่งสาธารณะ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วเดินต่อไปยังสนามมวยราชดำเนินได้อย่างสะดวก หรือใช้บริการรถแท็กซี่เพื่อมาถึงได้อย่างรวดเร็ว
สนามมวยราชดำเนินถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านกีฬาและวัฒนธรรมของประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในมวยไทย หรือแค่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนามมวยราชดำเนินเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนกรุงเทพฯ มาชมการแข่งขันมวยไทยที่สนุกสนาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ
ที่อยู่
สนามมวยราชดำเนินตั้งอยู่ที่ เลขที่ 1 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ใกล้กับย่านการค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ เช่น ห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อื่นๆ
พิกัด
https://maps.app.goo.gl/exHUS9J9jQiBcp228
เปิดให้เข้าชม
สนามมวยราชดำเนินเปิดให้เข้าชมการแข่งขันมวยไทยในช่วงกลางสัปดาห์ โดยการแข่งขันมวยไทยส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในวันอังคาร, ศุกร์ และอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 18:00 น. จนถึงประมาณ 22:00 น. ขึ้นอยู่กับจำนวนการชกในแต่ละวัน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตามเวลาการแข่งขัน
เว็บไซต์
สนามมวยราชดำเนินมีเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันและตารางการจัดแข่งขันต่าง ๆ โดยสามารถเข้าชมได้ที่:
www.rajadamnern.com
เบอร์โทรศัพท์
หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อตั๋วหรือเวลาการแข่งขัน สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ +66 2 281 4200 หรือ +66 2 281 4281
5 เหตุผลที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ของโลก
กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ถูกยกย่องให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกในปี 2024 โดย Euromonitor International ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความดึงดูดของเมืองนี้ที่มีความหลากหลายและครบครันในทุกด้าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ มีหลายเหตุผลที่ทำให้เมืองนี้เป็นที่นิยมและครองตำแหน่งเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก
1. อาหารการกินอุดมสมบูรณ์
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้กรุงเทพฯ ได้รับความนิยมคืออาหารการกินที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ กรุงเทพฯ เป็นสวรรค์ของนักชิมจากทั่วโลก ตั้งแต่ร้านอาหารหรูหราจนถึงร้านข้างถนนที่เสิร์ฟอาหารอร่อยราคาไม่แพง เมนูที่ขึ้นชื่อ เช่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย และสตรีทฟู้ดที่ไม่เหมือนใคร เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลมาที่กรุงเทพฯ เพื่อสัมผัสรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย
2. เที่ยวครบทุกไลฟ์สไตล์
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ, นักช็อปปิ้ง, หรือผู้ที่รักความบันเทิง กรุงเทพฯ ก็มีทุกสิ่งที่ต้องการ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าหรูหราจากต่างประเทศ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน ไปจนถึงตลาดนัดสุดชิคอย่างตลาดนัดจตุจักร และหากใครที่อยากสัมผัสความสงบแบบไทย ๆ ก็สามารถไปเที่ยววัดพระแก้วหรือพระบรมมหาราชวังได้
3. การเดินทางที่ครอบคลุม
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีระบบการเดินทางที่สะดวกและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS, MRT หรือแม้แต่เรือด่วนบนแม่น้ำเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายในเมืองหลวงนี้ นอกจากนี้ การขนส่งสาธารณะยังมีความปลอดภัยและราคาถูก ทำให้การเดินทางรอบเมืองเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
4. วัฒนธรรม-ศิลปะ สวยงาม
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลายและงดงาม ตั้งแต่ศิลปะการแสดงที่สะท้อนความเป็นไทย เช่น การแสดงโขน, รำไทย ไปจนถึงการเยี่ยมชมวัดและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดพระแก้ว, วัดอรุณฯ และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางศิลปะและวัฒนธรรม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์
5. ที่พักกรุงเทพฯ มีหลากหลายสไตล์
กรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองที่มีที่พักหลากหลายสไตล์ให้เลือกตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรมหรู 5 ดาวในย่านใจกลางเมือง ไปจนถึงโฮสเทลหรือที่พักราคาประหยัดที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดงบ หรือแม้แต่รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พักเหล่านี้มีบริการที่ครบครันและพร้อมให้การบริการที่ดีที่สุดแก่นักท่องเที่ยวทุกระดับ
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ กรุงเทพฯ จึงสามารถครองตำแหน่งเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกในปี 2024 และยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่เมืองแห่งนี้ กรุงเทพฯ ถือว่าเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาสัมผัสเป็นอันดับต้นๆ ด้วยความที่เป็นเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหลและเป็นเมืองที่มากไปด้วยวัฒนธรรมอันดีงาม ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนรักการเดินทาง ดังนั้นเรื่องการเดินทางซึ่งเป็นปัจจัยหลักของทุกการเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีรถยนต์ใช้เดินทาง ก็สามารถติดต่อจอง เช่ารถกรุงเทพ กับ CK car rent ได้เลย เพราะเรามีให้บริการทั้งรถยนต์ขนาดเล็ก รถ 7 ที่นั่ง รถตู้ เช่ารถ Alphard รถเบนซ์ รวมทั้งเรามีบริการเช่ารถพร้อมคนขับและรถรับส่งสนามบินด้วยนะ บริการครบจบที่เดียวจริงๆ